ความสำคัญและคุณค่าของเครื่องหมายการค้า
ระบบธุรกิจการค้าของโลกยุคปัจจุบัน ได้พัฒนาเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วส่งผลให้เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และมิได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะการค้าภายในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่ได้ขยายวงออกไปอย่างกว้างขวางจนอาจเรียกได้ว่าครอบคลุมทั่วโลก ดังที่มีคนพูดกันเสมอว่า “โลกทุกวันนี้ใบเล็กลง” และยิ่งการค้าเติบโตมากขึ้นเท่าไร เครื่องหมายการค้าก็จะเพิ่มความ สำคัญและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
ความสำคัญและคุณค่าของเครื่องหมายการค้านั้น แม้ไม่อาจวัดมูลค่าเป็นตัวเงินที่แน่ชัดลงไปได้ก็ตาม แต่หากจะได้พิเคราะห์ถึงความเสียหายหรือการสูญเสียทางธุรกิจ อันเป็นผลเนื่องมาจาก การโต้แย้งสิทธิหรือการกระทำละเมิดเครื่องหมายการค้าแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเครื่องหมาย การค้าแต่ละเครื่องหมายนั้นมีค่ามหาศาล ดังจะเห็นได้จากหลายกรณีที่นำไปสู่การฟ้องร้องดำเนิน คดีเพื่อแย้งสิทธิในเครื่องหมายการค้าระหว่างกัน
นอกจากนั้น หากจะพิจารณาถึงความสูญเสียในภาพรวมของระบบเศรฐกิจของประเทศ อันมี สาเหตุเนื่องมาจากการกระทำละเมิดเครื่องหมายการค้า จะเห็นได้ว่ามีมูลค่ามหาศาลที่ไม่อาจ ประเมินได้ ดังตัวอย่างเช่น
(1) สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยได้ตัด GSP หลายรายการ เพื่อตอบโต้ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ ทำให้สหรัฐต้องสูญเสียรายได้มหาศาล ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจส่งออกของไทย
(2) ประเทศเพื่อนบ้านละเมิดเครื่องหมายการค้าของไทย ทำให้ผู้ส่งออกของไทยไม่สามารถส่ง สินค้าไปขายในประเทศนั้น ๆ ได้ เป็นผลให้ต้องสูญเสียรายได้ และขาดโอกาสที่จะขยาย ตลาดออกไป
(3) การละเมิดเครื่องหมายการค้าในระหว่างคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นผลให้เจ้าของเครื่องหมายที่แท้จริงเดือดร้อน และต้องสูญเสียทั้งรายได้ และโอกาสที่จะขยายตลาด
ประเทศที่เห็นความสำคัญและคุณค่าของทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ กลุ่มประเทศในยุโรป ได้ให้การยอมรับว่าเครื่องหมายการค้าเป็น ทรัพย์สินชนิดหนึ่งที่มีคุณค่า มหาศาล และสามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ ดังจะเห็นได้จากการจัดอันดับเครื่องหมายการค้า ที่มีมูลค่าสูงที่สุด 10 อันดับแรกของโลก ดังนี้
VALUE OF TRADEMARK
WORLDWIDE CLASSIFICATION OF THE FIRST TEN TRADEMARKS, 1993
Coca-Cola | $ 36.0 milliards |
Marlboro | $ 33.5 milliards |
Nescafe | $ 11.5 milliards |
Kodak | $ 10.0 milliards |
Microsoft | $ 9.8 milliards |
Budweiser | $ 9.7 milliards |
Kellogg’s | $ 9.4 milliards |
Motorola | $ 9.3 milliards |
Gillette | $ 8.2 milliards |
Bacardi | $ 7.2 milliards |
SOURCE : Ourosoft, A. & Grabrsk, B’H., “Brands : What’s hot. What’s not.”
Financial World, August 2, 1994