คำแนะนำเกี่ยวกับสัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
(โดยคู่สัญญาลงนามทั้งสองฝ่าย)
- สัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์(โดยคู่สัญญาลงนามทั้งสองฝ่าย) นี้ มีลักษณะเป็นสัญญาตัวอย่าง (Model Contract) เพื่อให้ผู้ที่ประสงค์จะขออนุญาตใช้ลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าวใช้เป็นแบบในการทำสัญญา
2. สัญญาอนุญาตนี้ได้จัดทำขึ้น เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นต้น รวมทั้งแนวปฏิบัติในทางธุรกิจการค้าในปัจจุบัน
3. สัญญาอนุญาตนี้ เป็นผลงานของคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากภาครัฐบาลและภาคเอกชน ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ จึงเป็นสัญญาที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้รับอนุญาต และสังคมโดยส่วนรวม
4. เพื่อประโยชน์ในการใช้สัญญาตัวอย่างดังกล่าว ควรอ่านคำแนะนำข้างล่างนี้
สัญญาข้อ 1 คู่สัญญาอาจกำหนดคำนิยามเพื่อให้คำที่ใช้ในสัญญามีความชัดเจนขึ้น หรือมีความหมายตรงกับความเข้าใจของคู่สัญญา หรือเป็นคำที่คู่สัญญากำหนดไว้ เนื่องจากคู่สัญญาต้องการให้มีความหมายพิเศษ
ข้อ 1.2 คู่สัญญาอาจระบุหมายเลขเครื่องใน ช่องใดช่องหนึ่ง เพื่อระบุว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่อนุญาตจะใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดบ้าง แต่มีข้อสังเกตว่าการระบุเลขเครื่องนั้น อาจทำให้สัญญาไม่มีความยืดหยุ่น เช่น ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ระบุหมายเลขเครื่องไว้นั้นเกิดเสียหาย หรือขัดข้อง หากจำเป็นจะต้องนำคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นมาใช้งานแทนก็อาจเกิดปัญหาได้ เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์อาจมีเลขเครื่องไม่ตรงกัน
นอกจากนั้น คู่สัญญาอาจเลือกกาเครื่องหมายใน ช่องใดช่องหนึ่งหรือหลายช่องได้ ตามเจตนาของคู่สัญญาสัญญาข้อ 3
ข้อ 3.1 คู่สัญญาอาจตกลงเกี่ยวกับจำนวนเงินค่าตอบแทนตามความเหมาะสม โดยจำนวนของค่าตอบแทนจะขึ้นอยู่กับมูลค่าของโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น ๆสัญญาข้อ 10
ข้อ 10.2 เป็นหลักทั่วไปที่คู่สัญญาควรจะกำหนดเรื่องการฝึกอบรม เกี่ยวกับการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้การใช้เครื่องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าโดยลักษณะของการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น จำเป็นจะต้องมีการฝึกอบรมเป็นพิเศษ คู่สัญญาอาจทำสัญญาตกลงเรื่องการฝึกอบรมไว้เป็นพิเศษอีกฉบับหนึ่งแนบท้ายสัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อกำหนดหน้าที่ของผู้อนุญาตในการฝึกอบรม กำหนดระยะเวลา จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม ฯลฯ เป็นต้นสัญญาข้อ 12 คู่สัญญาอาจตกลงกัน โดยระบุไว้ในสัญญาว่าสัญญาข้อใด บ้างที่คู่สัญญาถือว่าเป็นสาระสำคัญ ซึ่งหากคู่สัญญาฝ่ายใดจงใจไม่ปฏิบัติตามสัญญา คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ เช่น ให้ถือว่าสัญญาข้อ 2 ข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 9 เป็นข้อสัญญาอันเป็นสาระสำคัญ เป็นต้น
———————————————
สัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
(โดยคู่สัญญาลงนามทั้งสองฝ่าย)
ทำที่…………………………………….
วันที่….เดือน…………….พ.ศ. ………
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง ………………………………… อยู่เลขที่………………… ถนน ……………………… แขวง/ตำบล …………………………… เขต/อำเภอ………………………. จังหวัด …………………….. ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้อนุญาต” ฝ่ายหนึ่ง กับ ……………………………………… อยู่เลขที่ ………….. ถนน …………………… แขวง/ตำบล…………………….. เขต/อำเภอ ……………… จังหวัด ……………………. ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้รับอนุญาต” อีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันมีข้อความต่อไปนี้
1. การอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
1.1 ผู้อนุญาตเป็นเจ้าของลิขสิทธิ ์ / ผู้มีสิทธิอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชื่อ ……………………… และเอกสารที่ระบุในสัญญานี้ ( ซึ่งในสัญญานี้เรียกว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ )
1.2 ผู้อนุญาตตกลงอนุญาตให้ผู้รับอนุญาตใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตามที่ระบุในสัญญานี้ในลักษณะดังต่อไปนี้
สัญญาฉบับนี้อนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บรรจุโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จำนวน ………เครื่อง (volume license)
สัญญาฉบับนี้อนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ กับเครื่องคอมพิวเตอร์หลักในระบบเครือข่าย (network) เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน………..เครื่อง สามารถใช้งานโปรแกรม-คอมพิวเตอร์ได้ในขณะหนึ่ง ๆ (network license)
อื่น ๆ ………………………………………………
(ข้อใดไม่ใช้ให้ขีดฆ่าออก)
- สิทธิของคู่สัญญา
2.1ผู้รับอนุญาตมีสิทธิที่จะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และเอกสารต่าง ๆ ตามที่ระบุในสัญญานี้
2.2 ผู้รับอนุญาตไม่มีสิทธิที่จะให้เช่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือเอกสาร หรือสิทธิใด ๆ ที่ให้ไว้ตามสัญญานี้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้อนุญาตเป็นลายลักษณอักษร
2.3 ผู้รับอนุญาตมีสิทธิทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ 1 ชุด (หนึ่งชุด) เพื่อป้องกันการสูญหายในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวเท่านั้น เว้นแต่การทำสำเนามากกว่า 1 ชุด (หนึ่งชุด) จะได้รับความยินยอมจากผู้อนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
2.4 ผู้รับอนุญาตไม่มีสิทธิทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกโฆษณา แปล แก้ไขชื่อ เลข รหัส หรือเรียบเรียงใหม่ ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้อนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หรือกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
2.5 ผู้รับอนุญาตขอรับรองว่าจะไม่ ลบ ทำลาย ทำให้เสียหาย หรือทำให้ไม่ชัดเจน ซึ่งเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้าของผู้อนุญาตโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
3. ค่าตอบแทนและระยะเวลาการอนุญาต
3.1 การชำระค่าตอบแทน
ผู้รับอนุญาตตกลงชำระค่าตอบแทนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้แก่ผู้อนุญาตเป็นจำนวนเงิน ………………. บาท (…………………………………….)
ผู้รับอนุญาตตกลงชำระค่าตอบแทนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับคอมพิวเตอร์………….ชุด ชุดละ……………บาท รวมเป็นเงิน…………บาท (………………………)
3.2 ระยะเวลาการอนุญาต
ระยะเวลาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามสัญญานี้มีกำหนด………ปี เริ่มตั่งแต่วันที่…….เดือน………….พ.ศ. ……… และสิ้นสุดวันที่…….เดือน…………..พ.ศ. ……….….
เมื่อกำหนดระยะเวลาตามสัญญาสิ้นสุดลง ให้ถือว่าสัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ฉบับนี้ได้เริ่มต้นใหม่ และสิ้นสุดลงเมื่อครบระยะเวลา 1 ปีต่อไปโดยปริยาย เว้นแต่จะได้มีการบอกเลิกสัญญาล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรภายในกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ในกรณีที่มีการอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่อเนื่อง ภายหลังจากครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญา ผู้รับอนุญาตตกลงจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้อนุญาตปีละ………………บาท (………………………..) โดยตกลงจะชำระเป็นรายปี
(ข้อใดไม่ใช้ให้ขีดฆ่าออก)
4. ข้อจำกัดความรับผิดชอบและการรับประกัน
4.1 ผู้อนุญาตขอรับประกันว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์จะทำงานได้ตามที่กำหนดไว้ทุกประการ เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 90 วัน นับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตรับมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และหากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ผู้อนุญาตจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ผู้อนุญาตจะคืนเงินให้แก่ผู้รับอนุญาตเท่ากับที่ผู้รับอนุญาตจ่ายให้แก่ผู้อนุญาต
(2) ผู้อนุญาตจะเปลี่ยนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งชำรุดบกพร่องและส่งมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์อันใหม่ที่ได้มาตรฐาน ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่ผู้อนุญาตได้รับมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ชำรุดคืน
(3) ผู้อนุญาตจะแก้ไขปรับปรุงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ดีดังเดิมโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่ผู้อนุญาตได้รับมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ชำรุดคืน
4.2 ผู้อนุญาตยินยอมรับผิดในการชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง หรือโปรแกรมอื่น ๆ หรือสิ่งอื่นใด อันเกิดขึ้นจากความชำรุดบกพร่องของโปรกแกรมคอมพิวเตอร์ตามสัญญานี้ หากผู้รับอนุญาตได้ใช้และบำรุงรักษาตามปกติภายในระยะเวลา 1 ปี (หนึ่งปี) นับจากวันส่งมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนเงิน …………. เท่าของมูลค่าของโปรแกรมคอมพิวเตอร์นี้ หรือไม่เกินจำนวนเงิน ………………. บาท ทั้งนี้ความเสียหายจะต้องไม่เป็นผลมาจากอุบัติเหตุการใช้โดยวิธีการที่ผิด หรือการใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์
5. การรักษาความลับทางการค้า
ผู้รับอนุญาตจะไม่เปิดเผยข้อมูล หรือเทคนิคเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งผู้รับอนุญาตรู้ หรือควรรู้ว่าเป็นความลับทางการค้าของผู้อนุญาต ในลักษณะที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อนุญาตให้บุคคลอื่นทราบ
6. คำรับรอง
ผู้อนุญาตขอรับรองและยืนยันว่า ผู้อนุญาตมีสิทธิโดยสมบูรณ์และปราศจากภาระผูกพันใด ๆ อันจะทำให้เสื่อมสิทธิในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เอกสารเกี่ยวกับคู่มือการใช้ หรือสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามสัญญานี้ และผู้อนุญาตมีอำนาจในการอนุญาตให้ผู้รับอนุญาตใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
7. การต่อสู้คดี
7.1 ในกรณีที่มีบุคคลอื่นฟ้องร้อง หรือใช้สิทธิจะฟ้องร้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ภายใต้สัญญานี้ ผู้รับอนุญาตจะแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ ผู้รับอนุญาตทราบ และผู้อนุญาตมีสิทธิที่จะเข้าเป็นจำเลยร่วมในคดีแพ่ง หรือเป็นโจทก์ร่วมในการฟ้องแย้ง และผู้อนุญาตจะให้ความช่วยเหลือในการให้ข้อมูลหรือเอกสาร อันเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดีตามสมควรแก่กรณี
7.2 ค่าใช้จ่าย และค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้รับอนุญาตจากผลคดีละเมิดสิทธิภายใต้สัญญานี้ ผู้อนุญาตเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
8. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการแก้ไขพัฒนาให้ดีขึ้น
8.1 ผู้อนุญาตมีหน้าที่ต้องเสนองานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นจากรากฐานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่อนุญาตตามสัญญาน หรือรากฐานโปรแกรมคอมพิวเตอร์อื่นที่เกี่ยวพันกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามสัญญานี้แก่ผู้รับอนุญาต และผู้รับอนุญาตมีสิทธิที่จะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาแล้วดังกล่าว โดยผู้รับอนุญาตจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้อนุญาตตามจำนวนที่ตกลงกัน
8.2 เมื่อผู้รับอนุญาตได้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยมีสิทธิตามกฎหมายหรือเมื่อได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้อนุญาตแล้ว ผู้รับอนุญาตมีสิทธิที่จะใช้ หรือโอนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะส่วนที่ได้พัฒนาให้ดีขึ้นดังกล่าว ให้แก่บุคคลอื่น แต่ผู้รับอนุญาตมีหน้าที่ต้องเสนอโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้พัฒนา จากรากฐานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามสัญญานี้แก่ผู้อนุญาต โดยผู้อนุญาตจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้รับอนุญาตตามจำนวนที่ตกลงกัน
9. การส่งมอบและการตรวจรับ
9.1 การส่งมอบ
ผู้อนุญาตจะส่งมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามที่ระบุใน ข้อ 1 ซึ่งมีคุณสมบัติถูกต้องและครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ ซึ่งพร้อมที่จะใช้งานได้ตามที่กำหนดในเอกสารที่ระบุในสัญญานี้ให้แก่ผู้รับอนุญาต ณ …………………………………….. ภายในกำหนด………วัน นับแต่วันทำสัญญาฉบับนี้
ในกรณีที่ผู้อนุญาต จะต้องทำการติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตามสัญญาฉบับนี้ ผู้อนุญาตจะต้องดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จ และอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี และมีคุณสมบัติการทำงานตรงตามที่ระบุในสัญญานี้ หรือเอกสารที่ระบุในสัญญานี้ ภายใน………….วัน นับแต่วันส่งมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ข้างต้น
ในกรณีที่ผู้อนุญาตไม่สามารถส่งมอบ หรือติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตามสัญญาฉบับนี้ ภายในเวลาที่กำหนด ผู้อนุญาตจะต้องแจ้งให้ผู้รับอนุญาตทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย
9.2 การตรวจรับ
ผู้อนุญาตจะจัดหาเจ้าหน้าที่ เพื่อให้คำแนะนำและตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์แก่ผู้รับอนุญาต โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ จากผู้รับอนุญาต ในกรณีที่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ส่งมอบไม่มีคุณสมบัติ หรือประสิทธิภาพตามที่กำหนดในสัญญานี้ ผู้รับอนุญาตมีสิทธิที่จะไม่ตรวจรับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ และผู้รับอนุญาตจะแจ้งให้ผู้อนุญาตดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ระบุในข้อ 4.1
10. การบริการ
10.1 การบริการ
ผู้อนุญาตมีหน้าที่ให้บริการหรือแก้ไขข้อบกพร่องใด ๆ เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้อนุญาตส่งมอบหรือติดตั้งตามสัญญานี้ เมื่อผู้อนุญาตได้รับแจ้งจากผู้รับอนุญาตโดยไม่ชักช้า และไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ตลอดระยะเวลารับประกัน
10.2 การฝึกอบรม
ผู้อนุญาตมีหน้าที่จัดหาเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความชำนาญ เกี่ยวโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่อนุญาต เพื่อฝึกอบรมการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้แก่ผู้รับอนุญาต โดยมีกำหนดเวลา………..วัน หรือตามที่ผู้อนุญาตและผู้รับอนุญาตจะได้ตกลงกันภายหลัง
11. การระงับข้อพิพาท
ในกรณีที่มีข้อพิพาท ข้อขัดแย้ง หรือข้อเรียกร้องใด ๆ เกิดขึ้นจากสัญญานี้ หรือเกี่ยวเนื่องกับสัญญานี้ รวมทั้งปัญหาการผิดสัญญา การเลิกสัญญา หรือความสมบูรณ์แห่งสัญญา ให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายดำเนินการเจรจาตกลงกัน เพื่อระงับข้อพิพาทภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คู่สัญญาฝ่ายที่กล่าวอ้างว่ามีข้อพิพาทเกิดขึ้น ได้แจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร หากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่อาจตกลงกันได้ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้เสนอข้อพิพาทที่เกิดขึ้นต่อกรม-ทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เพื่อดำเนินการไกล่เกลี่ย หากมิอาจดำเนินการไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ภายใน 60 วัน ให้มอบข้อพิพาทดังกล่าวแก่อนุญาโตตุลาการเพื่อชี้ขาด ตามข้อบังคับอนุญาโตตุลาการของสถาบันอนุญาโตตุลาการ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะที่มีการเสนอข้อพิพาทเพื่อการอนุญาโตตุลาการ และให้อยู่ภายใต้การจัดการของสถาบันดังกล่าว หรือให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
12. การบอกเลิกสัญญา
หากคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจงใจฝ่าฝืนข้อสัญญาอันเป็นสาระสำคัญ คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิฟ้องร้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญา หรือมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
สัญญานี้ ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความในสัญญาโดยตลอดดีแล้ว จึงลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และเก็บไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ
ลงชื่อ………………………………..ผู้อนุญาต
(………………………………)
ลงชื่อ………………………………..ผู้รับอนุญาต
(………………………………)
ลงชื่อ………………………………..พยาน
(………………………………)
ลงชื่อ………………………………..พยาน
(………………………………)