หมวด 2 การขึ้นทะเบียนองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง

หมวด 2 การขึ้นทะเบียนองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง

มาตรา 7 องค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์และสิทธินักแสดง ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายใด การจดทะเบียนนิติบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายนั้น

องค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง เมื่อได้จดทะเบียนแล้วเป็นนิติบุคคล ต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้น หรือสมาชิกขององค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง

มาตรา 8 ให้องค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง มีวัตถุประสงค์กระทำการดังต่อไปนี้ได้

  1. จัดให้ได้มา รับโอนสิทธิ หรือ ด้วยวิธีอื่นใด ซึ่งสิทธิในการเผยแพร่ต่อสาธารณชนแก่งานลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง
  2. อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิในงานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง ในการเผยแพร่ต่อสาธารณชน เพื่อประโยชน์ของสมาชิก โดยไม่เลือกปฏิบัติ
  3. ดำเนินการแบ่งค่าตอบแทนที่จัดเก็บได้ ให้แก่มวลสมาชิกตามที่คณะกรรมการกำหนด
  4. ให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกทางด้านคดีความที่ฟ้อง หรือถูกฟ้องต่อศาลอันเนื่องมาจากการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง
  5. ดำเนินกิจการอย่างอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์และสิทธินักแสดง
  6. ในการดำเนินงาน องค์กรจัดเก็บจะกำหนดข้อบังคับอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ก็ได้
  7. ให้การสงเคราะห์ตามสมควรแก่สมาชิก ที่ต้องอันตรายแก่กายหรือเสียชีวิตเกี่ยวกับอาชีพ

มาตรา 9 ผู้มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง มีดังนี้

  1. นิติบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทย
  2. นิติบุคคลซึ่งมิได้มีสัญชาติไทย แต่เป็นประเทศภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์หรืออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธินักแสดง ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย และมีภูมิลำเนาหรือสถานที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรี
  3. ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรอื่นที่เป็นนิติบุคคล

มาตรา 10 การขอขึ้นทะเบียนองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์หรือสิทธินักแสดง และอัตราค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 11 เมื่อได้รับคำขอขึ้นทะเบียน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 และทำรายงานการตรวจสอบเสนอความเห็นต่ออธิบดี

ในการตรวจสอบคำขอตามวรรคหนึ่ง หากมีข้อสงสัยให้นายทะเบียนเรียกผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำชี้แจงหรือแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียน

มาตรา 12 ในกรณีที่คำขอขึ้นทะเบียนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 ให้อธิบดีมีคำสั่งยกคำขอขึ้นทะเบียนและให้มีหนังสือแจ้งคำสั่งพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบโดยไม่ชักช้า

ผู้ขอขึ้นทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีต่อคณะกรรมการได้ภายในเก้าสิบวันแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น การอุทธรณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

เมื่อคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยแล้ว ถ้าผู้ขอขึ้นทะเบียนไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด

ในกรณีที่มีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอันเป็นที่สุดว่าคำขอขึ้นทะเบียนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 ให้ดำเนินการต่อไปตามมาตรา 13

มาตรา 13 ในกรณีที่คำขอขึ้นทะเบียนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 และอธิบดีเห็นควรให้ขึ้นทะเบียนโดยมีเงื่อนไขหรือไม่มีเงื่อนไข ให้อธิบดีมีคำสั่งประกาศโฆษณาการรับขึ้นทะเบียนตามวิธีการที่อธิบดีกำหนด

มาตรา 14 เมื่ออธิบดีขึ้นทะเบียนองค์กรจัดเก็บแล้ว ให้การคุ้มครององค์กรจัดเก็บมีผลตั้งแต่วันที่ออกหนังสืออนุญาต

ห้ามมิให้ออกหนังสืออนุญาตแก่องค์การจัดเก็บประเภทเดียวกัน ที่ได้รับอนุญาตแล้วตามวรรคหนึ่ง

มาตรา 15 องค์กรจัดเก็บจะขอต่ออายุหนังสืออนุญาตได้คราวละไม่เกิน 5 ปี โดยยื่นคำขอต่ออายุต่อนายทะเบียนภายใน 90 วันก่อนวันสิ้นอายุ 5 ปี เมื่อได้ยื่นคำขอแล้วให้ถือว่าองค์การจัดเก็บยังคงอยู่ในทะเบียน จนกว่านายทะเบียนจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

การขอต่ออายุหนังสืออนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการของประกาศคณะกรรมการกำหนด

Scroll to Top